ตลาด
บัญชี
แพลตฟอร์ม
นักลงทุน
โปรแกรมพันธมิตร
สถาบัน
โปรแกรมความภักดี
เครื่องมือ
เขียนโดย Itsariya Doungnet
อัปเดตแล้ว 11 มิถุนายน 2025
สำหรับผู้ที่กำลังสงสัยกันอยู่ว่า มาร์จิ้นคืออะไร? ในบทความนี้คุณจะเรียนรู้ และ ทำความเข้าใจกับ ความหมาย Margin ง่ายๆ ครบจบที่นี่ที่เดียว แม้ว่าคุณจะไม่เคยได้ยินเกี่ยวมาร์จิ้นมาก่อน ก็สามารถเรียนรู้ได้ไม่ยาก ท้ัง การใช้มาร์จิ้นในธุรกิจ และ วิธีการคำนวณ เพื่อให้คุณบริหาความเสี่ยงได้อย่างมี ประสิทธิภาพ และตัดสินใจเข้าเทรดได้อย่างมีประสิทธิผล อ่านรายละเอียดกันต่อเลย
Margin คือ เครื่องมือทางการเงิน ที่ช่วยเพิ่มการทำกำไร ทั้งในธุรกิจและการเทรด สามารถคำนวณจากการวางเงินประกันกับโบรกเกอร์เพื่อควบคุมการลงทุนที่มากขึ้น
การคำนวณมาร์จิ้นในการเทรด ช่วยให้นักลงทุนสามารถวางแผนการใช้เงินทุนอย่างรอบคอบ โดยมีสูตรง่ายๆ ที่ใช้ได้ทั้งในตลาดหุ้นและ Forex
การใช้มาร์จิ้นมีความเสี่ยง หากไม่บริหารการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ อาจทำให้เกิดการขาดทุนเร็ว หรือถูก Margin Call ได้
ลงทะเบียนบัญชีเดโม่ฟรีและปรับกลยุทธ์การเทรดของคุณ
Margin เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยเพิ่มศักยภาพการทำกำไร ทั้งในธุรกิจและการเทรด ซึ่งอาจจะมีความเสี่ยงเกิดขึ้นได้เช่นกัน
มาร์จิ้นในธุรกิจ คือ อัตรากำไรขั้นต้น จากการขายสินค้ากับต้นทุนที่ใช้ผลิต เช่น อัตรากำไรสุทธิ ที่ช่วยบ่งชี้ความสามารถการทำกำไรของธุรกิจ ยิ่ง Margin สูง ยิ่งทำกำไรได้ดี
มาร์จิ้นในการเทรด คือ เงินประกัน ที่นักลงทุนต้องวางไว้กับโบรกเกอร์ เพื่อเปิดคำสั่งซื้อขายสินทรัพย์ เช่น หุ้น, ฟอเร็กซ์ หรือ คริปโต ทำให้สามารถควบคุมการลงทุนที่มากขึ้นกว่าเงินทุนที่วางไว้
ความสำคัญของ Margin มีหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น มาร์จิ้นและการวางแผนธุรกิจ หรือ มาร์จิ้นและการวิเคราะห์ทางการเงิน เพื่อการลงทุนที่ดีกว่าเดิม เรามาดูความสำคัญในแต่ละด้านกัน
มาร์จิ้นและการตัดสินใจลงทุน เป็นสิ่งควบคู่กัน ซิ่งมาร์จิ้น จะเป็นตัวที่ทำให้คุณสามารถเทรดได้มากกว่าต้นทุนที่คุณมี ไม่จำเป็นต้องใช้เงินเต็มจำนวน ช่วยให้เพิ่มโอกาสการทำกำไรได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้ Margin ที่สูงก็จะมีความเสี่ยงสูงเช่นเดียวกัน
มาร์จิ้น เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการวัดประสิทธิภาพธุรกิจของคุณ ช่วยให้เจ้าของธุรกิจและนักลงทุนเห็นประสิทธิภาพการดำเนินงาน ช่วยให้ธุรกิจทราบว่า มาร์จิ้นและกำไร ที่ได้จากการขายสินค้าเพียงพอ ที่จะสร้างกำไรและครอบคลุมต้นทุน หาก Margin สูง หมายความว่า ทำกำไรได้ดี
Margin แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักที่คุณสามารถนำไปใช้งานได้ เช่น มาร์จิ้นในธุรกิจ, มาร์จิ้นในตลาดการเงิน และ มาร์จิ้นในการเทรด Forex และหุ้น ที่คุณจะได้เห็นความแตกต่าง มาร์จิ้นและการจัดการต้นทุน การใช้งานของแต่ละแบบ
Gross Profit Margin (อัตรากำไรขั้นต้น) สามารถบอกว่าสินค้าที่ขายได้เหลือกำไรเท่าไรหลังหักต้นทุน
Operating Margin (อัตรากำไรจากการดำเนินงาน) ช่วยวัดความสามารถในการทำกำไรจากกิจกรรมหลักของธุรกิจ โดยยังไม่รวมภาษีหรือดอกเบี้ย
Net Profit Margin (อัตรากำไรสุทธิ) เป็นกำไรจริงที่เหลือหลังจากหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด
Initial Margin คือ เงินเริ่มต้นที่ต้องวางไว้ก่อนลงทุน
Maintenance Margin คือ เงินขั้นต่ำที่ต้องมีคงอยู่ในบัญชีเพื่อไม่ให้ถูกบังคับขาย
Variation Margin คือ เงินที่ต้องเติมเพิ่มตามการเปลี่ยนแปลงของราคาตลาด
Margin Call คือ การแจ้งเตือนให้เพิ่มเงินเมื่อยอดเงินในบัญชีต่ำกว่าที่กำหนด
Leverage Margin (มาร์จิ้นจากการใช้เลเวอเรจ) จะใช้เงินน้อยควบคุมสัญญาขนาดใหญ่ เช่น ใช้ทุน 1,000 บาท ควบคุมการเทรดมูลค่า 100,000 บาท
Isolated Margin เป็นวางมาร์จิ้นแยกในแต่ละออร์เดอร์ หากขาดทุนจะเสียแค่ที่วางไว้ เหมาะกับนักเทรดที่ต้องการควบคุมความเสี่ยงเฉพาะจุด
Cross Margin จะใช้ยอดเงินรวมในบัญชีเป็นหลักประกันรวมทุกออร์เดอร์ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น แต่อาจเสี่ยงต่อการล้างพอร์ตหากตลาดมีความผันผวน
การคำนวณ มาร์จิ้นในหุ้น และ มาร์จิ้นใน Forex เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้นักเทรดวางแผนการใช้เงินทุนได้อย่างรอบคอบมากยิ่งขึ้น โดเยเฉพาะตลาดที่คุณเลือกใช้ เลเวอเรจ (Leverage) เช่น Forex, หุ้น, หรือคริปโต เป็นต้น
Margin = (ขนาดของออร์เดอร์ × ราคาตลาด) / Leverage
สมมุติว่าคุณเปิด 1 ล็อต ที่มีค่าเท่ากับ 100,000 หน่วย กับคู่เงิน EUR/USD ที่ราคา 1.100 เลเวอเรจ 1:100
คำนวณ Margin ได้ตามนี้: (100,000 x 1.1000)/100 = 1,1000 USD
หมายความว่า: คุณต้องมีเงินในบัญชีอย่างน้อย 1,1000 ดอลลาร์ เพื่อเปิดออร์เดอร์ขนาด 1 ล็อต ด้วยเลเวอเรจ 1:100
สมมุติว่า ราคาหุ้น 200 บาท ซื้อหุ้นทั้งหมด 100 หุ้น เลเวอเรจ 1:5
คำนวณ Margin ได้ตามนี้: (200 x 100)/5 = 4,000 บาท
หมายความว่า: คุณต้องมีเงิน 4,000 บาท เพื่อเปิดคำสั่งซื้อ 20,000 บาท ซึ่ง 20,000 บาท มาจากที่เรานำ ราคาหุ้น x จำนวนหุ้น 100 ตัว
แม้ว่า การบริหารมาร์จิ้น จะช่วยเพิ่มกำไรให้คุณแล้ว การใช้มาร์จิ้นก็มีความเสี่ยงในการขาดทุนด้วยเช่นกัน หากคุณเลือกเลเวอเรจที่สูงเกินไป เพราะฉะนั้นห้ามเพิกเฉยกับเรื่อง มาร์จิ้นและการบริหารความเสี่ยง เด็ดขาด เรามาดูกันต่อเลยว่ามีอะไรบ้าง
การใช้เลเวอเรจ เป็นการเพิ่มขนาดการเทรด จะมีการใช้เงินที่น้อย เช่น เทรดด้วยเลเวอเรจ 1:100 เท่ากับใช้เงินเพียง 1 หน่วยในการควบคุมออเดอร์ขนาด 100 หน่วย ซึ่งจะทำให้ผลกำไรเพิ่มขึ้นกว่า 100 เท่า และขาดทุนก็เพิ่มขึ้น 100 เท่าเช่นกัน
เมื่อ มาร์จิ้นและราคาขาย เคลื่อนไหวผิดทาง จนทำให้พอร์ตติดลบจนยอดเงินในบัญชีต่ำกว่าเงินประกันต่ำกว่าระดับที่รักษาไว้ ทางฝั่งโบรกเกอร์จะทำการแจ้งเตือนให้เติมเงินในบัญชี เรียกว่า Margin Call ซึ่งหากคุณไม่เติมเงินภายในเวลาที่กำหนด ทางโบรกเกอร์จะบังคับขายสินทรัพย์ หรือมีการปิดคำสั่งซื้อของคุณอัตโนมัติ
กรณีที่ไม่มีการตั้ง Stop Loss หรือการวัดขนาดล็อตที่ใช้ หากราคามีความผันผวนผิดทาง ก็อาจจะทำให้คุณสูญเสียเงินทั้งหมดในบัญชี หรือที่เราเรียกกันว่า ล้างพอร์ต โดยเฉพาะตลาดคริปโตและ Forex ที่มีความผันผวนสูง หมายความว่า ราคาขึ้นและลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเหตุการณ์นี้อาจจะเกิดขึ้นภายในไม่กี่วินาทีเท่านั้น
การเทรดมาร์จิ้นมีความเสี่ยงสูง ทำให้นักเทรดมีความวิตกกังวล ความกดดัน และความโลภ สิ่งเหล่านี้เป็นตัวแปรทางจิตวิทยา ที่อาจจะทำให้คุณตัดสินใจอย่างไรเหตุผล เช่น ไม่มีการ Cut Loss เมื่อสถานการณ์เป็นไปไม่ตามขาด เพราะหวังว่า กราฟจะกลับตัวทันเวลา หรือ การเข้าเทรดสวนเทรนด์ตลาด เป็นต้น
การใช้มาร์จิ้นไม่ได้จบแค่การเปิดออเดอร์ แต่คุณจะต้องมีเงินสำรองไว้ใช้ กรณีที่ตลาดมีการเคลื่อนไหวผิดทาง หลีกเลี่ยง Margin Call หรือ รักษาสถานะที่เปิดต่อไปได้ หากการบริหาร มาร์จิ้นและต้นทุน ของคุณไม่ดี ก็อาจจะหมดทุน ไม่สามารถเติมเงินได้ทันเวลา กรณีที่คุณสามารถเพิ่มออเดอร์ได้นั่นเอง
หากคุณเข้าใจเข้าใจและปฏิบัติตามเคล็ดลับการใช้ Margin อย่างปลอดภัย จะช่วยให้คุณสามารถเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ลดความเสี่ยง และเพิ่มความมั่นใจในการใช้ Margin ได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น
คุณสามารถเลือกเทรดด้วย Margin ด้วยเลเวอเรจต่ำ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดจากที่ใช้มาร์จิ้นสูงไป ซึ่งเริ่มต้นควรเลือกเลเวอเรจระดับ 1:2 หรือ 1:3 ที่จะช่วยลดการขาดทุนจากการความผันผวนสูง แน่นอนว่าคุณสามารถเพิ่มเลเวอเรจขึ้นได้ตามที่คุณต้องการ
หลายครั้งที่นักเทรดลืมตั้ง Stop Loss หรือไม่ได้นึกถึงการตั้ง SL ซึ่งนี่เป็นเครื่องมือสำคัญในการควบคุมความเสี่ยงการเทรด ที่จะช่วยให้คุณจำกัดขนาดขาดทุนในระดับที่คุณรับได้ และยังเป็นการหลีกเลี่ยงการถูกล้างพอร์ต เป็นเครื่องมือที่เหมาะกับทุกกลยุทธ์ที่คุณใช้เทรด
การบริหารความเสี่ยง เป็นปัจจัยสำคัญในการเทรด ซึ่งนักลงทุนควรเสี่ยงแต่ละเทรดไม่เกิน 1-2% ของเงินทุนทั้งหมด วิธีนี้จะช่วยให้คุณสามารถอยู่ในการเทรดได้ยาวนานมากขึ้น แม่ว่าจะมีการขาดทุนไปบ้าง แต่การกำหนดความเสี่ยงแบบนี้ ก็ช่วยให้คุณไม่เสียเงินทุนทั้งหมดไปในครั้งเดียว
การมีแผนการเทรดที่ชัดเจน จะช่วยให้ตัดสินใจเทรดได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ประกอบไปด้วย จุดเข้า (Entry Point), จุดออก (Exit Point), เป้าหมายกำไร (Profit Target) และจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) การบริหารการเงินแต่ละเทรด
Margin Level คือ อัตราส่วนระหว่างบัญชีกับเงินที่ใช้เปิดสถานะ ที่คุณควรตรวจสอบ Margin Level อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่า ไม่มีปัญหาเกิดขึ้น หากค่า Margin ต่ำเกินไป คุณควรเติมเงินเข้าบัญชี เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกบังคับการปิดสถานะจากโบรกเกอร์ของคุณ หรือที่เราเรียก Margin Call
การใช้ Margin ได้อย่างมีประสิทธภาพ ช่วยเพิ่มโอกาสในการลงทุน แต่ก็มีความเสี่ยงตามมาเช่นกัน อย่างไรก็ตามหากคุณบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างการเริ่มต้นด้วยเลเวอเรจที่ต่ำและตั้ง Stop Loss ทุกการเทรด ก็สามารถป้องกันการขาดทุนได้อย่างไม่คาดคิดเช่นกัน แน่นอนว่าคุณสามารถทำตามเคล็ดไม่ลับที่เราได้เขียนมานี้ง่ายๆ อย่างแน่นอน
เปิดบัญชีและเริ่มต้นเลย
Margin ในธุรกิจ หมายถึง กำไรสุทธิ หรือ ส่วนต่างระหว่างราคาขายและต้นทุน ของสินค้าหรือบริการในธุรกิจ เช่น เมื่อสินค้าขายได้ในราคาที่สูงกว่าต้นทุนที่ใช้ผลิต กำไรที่ได้จากส่วนต่างนี้เรียกว่า Margin
Margin ในการเทรด หมายถึง เงินทุนที่คุณยืมจากโบรกเกอร์ เพื่อเปิดสถานะการซื้อขาย ซึ่งจะมีการใช้เลเวอเรจ เช่น ถ้าคุณใช้มาร์จิ้น 1:100 คุณสามารถเทรดได้มากกว่าจำนวนเงินที่คุณฝากในบัญชี
Margin คือ ส่วนต่างระหว่างราคาขายและต้นทุนสินค้า ที่นำมาคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์ ส่วน Gross Profit คือ กำไรที่ได้หลังจากหักต้นทุนสินค้าขาย แต่ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ
Marketing Margin คือ ส่วนต่างระหว่างราคาขายที่กำหนด โดยผู้ขายและราคาที่ซื้อจากผู้ผลิต หรือผู้จัดจำหน่าย ค่านี้มักจะถูกใช้ในการคำนวณกำไรของกิจกรรมการตลาดและการขาย
Forex หรือ การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ Margin คือ เงินที่ใช้ในการเปิดตำแหน่งการเทรด เป็นการยืมเงินจากโบรกเกอร์ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเทรดได้มากกว่าจำนวนเงินที่คุณมีในบัญชี
Profit คือ กำไรที่ได้รับหลังจากการหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดในธุรกิจหรือการเทรด ส่วน Margin คือ ส่วนต่างระหว่างราคาขายและต้นทุนสินค้า หรือเงินที่จำเป็นในการเปิดตำแหน่งในตลาดการเงิน เช่น การเทรด Forex
SEO Content Writer
อิสสริยา ดวงเนตร เป็นนักเขียนคอนเท้นต์ SEO ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เชี่ยวชาญด้านการให้ความรู้ เรื่องตลาดเทรด และ การลงทุน เน้นสไตล์การเขียนที่อ่านง่าย เข้าใจง่าย และเนื้อหาความรู้จัดเต็ม พร้อมกับการผสมผสานเทคนิค SEO ที่ช่วยให้ผู้อ่านค้นหาบทความได้ง่าย อย่าลืมติดตามกันนะคะ
เนื้อหาในเอกสารหรือภาพนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นและแนวคิดส่วนบุคคล ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับความคิดเห็นของบริษัท ข้อมูลในที่นี้ไม่ควรตีความว่าเป็นคำแนะนำด้านการลงทุนใดๆ และ/หรือการชักชวนให้ทำธุรกรรมใดๆ ไม่มีการแสดงถึงข้อผูกพันในการซื้อบริการการลงทุน และไม่รับประกันหรือคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต บริษัท XS บริษัทในเครือ ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่ หรือพนักงาน ไม่รับประกันห้วงเวลา ความสมบูรณ์หรือความถูกต้องของข้อมูลหรือข้อมูลใดๆที่มีให้ และไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียใดๆที่เกิดจากการลงทุนตามข้อมูลดังกล่าวแพลตฟอร์มของเราอาจไม่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการทั้งหมดที่กล่าวถึง