ตลาด
บัญชี
แพลตฟอร์ม
นักลงทุน
โปรแกรมพันธมิตร
สถาบัน
โปรแกรมความภักดี
เครื่องมือ
เขียนโดย Itsariya Doungnet
อัปเดตแล้ว 2 พฤษภาคม 2025
Price Pattern และ Chart Pattern คือ รูปแบบการเคลื่อนไหวราคา ที่เกิดซ้ำตามพฤติกรรมของตลาด สามารถบ่งบอกแนวโน้มของราคาในอนาคตได้ ไม่ว่าจะเป็นการกลับตัวของทิศทางราคา หรือการเคลื่อนไหวไปต่อทิศทางเดิม บทความนี้ เราจะอธิบายความหมาย ความแตกต่าง และตัวอย่าง ทั้งของ "Price Pattern" และ "Chart Pattern" ทั้ง 17 รูปแบบที่คุณจำเป็นต้องรู้ อ่านรายละเอียดต่อเลย
Price Pattern และ Chart Pattern คือ เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ช่วยให้นักเทรดเข้าใจพฤติกรรมของราคา เพื่อคาดการณ์แนวโน้มในอนาคต
ทำความเข้าใจ 17 รูปแบบ Chart Pattern ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง เช่น Head and Shoulders, Ascending Triangle, Cup and Handle และอื่นๆ ช่วยกำหนดจุดซื้อขายได้แม่นยำมากขึ้น
การใช้ Price Pattern ร่วมกับ Volume และ Indicator จะช่วยยืนยันสัญญาณการซื้อขาย เพิ่มโอกาสการเทรดที่ประสบความสำเร็จมากขึ้น
ลงทะเบียนบัญชีเดโม่ฟรีและปรับกลยุทธ์การเทรดของคุณ
นักเทรดมักจะใช้ Chart Pattern และ Price Pattern เป็นเครื่องมือวิเคราะห์กราฟเพื่อคาดการณ์แนวโน้มราคาในอนาคต ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจเลือกคำสั่งซื้อขาย ทั้งสองแบบนี้มีความแตกต่างกันในเรื่องการวิเคราะห์และช่วงเวลาการใช้งาน
Chart Pattern คือ รูปแบบกราฟราคาที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมผู้เล่นในตลาด ที่มักจะเกิดขึ้นซ้ำๆ ช่วยให้นักเทรดคาดการณ์ได้ว่าราคาจะ "กลับตัว" (Reversal) หรือ "เคลื่อนไหวต่อ" (Continuation) ไปในทิศทางเดิม เน้นการวิเคราะห์ภาพรวมของกราฟราคาในช่วงเวลาหนึ่ง
Price Pattern คือ รูปแบบพฤติกรรมราคาระยะสั้น มักจะเป็นการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวราคาที่มีลักษณะเฉพาะ เช่น Breakout, Pullback หรือ Price Pattern แท่งเทียนรูปแบบเฉพาะ เช่น Pin Bar, Engulfing, Inside Bar เป็นต้น ใช้สำหรับหาจุด เข้า - ออกการเทรดได้อย่างแม่นยำ จะเน้นจังหวะที่ราคาขยับช่วงเวลาสั้นๆ
Chart Pattern มีกี่แบบ? บทความนี้เราได้ยกตัวอย่าง 17 รูปแบบ Chart Pattern ที่พบบ่อย มาให้คุณทำความเข้าใจตลาดได้ดีขึ้น ที่เรียกว่าเป็นพื้นฐานรูปแบบราคาที่นักเทรดควรรู้ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชีพ รูปแบบกราฟนี้จะช่วยให้คุณเทรดได้ง่ายขึ้น สามารถนำไปใช้วิเคราะห์จุดเข้าออกออเดอร์ และประเมินแนวโน้มราคาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ลำดับ
รูปแบบ Chart Pattern
เทรนด์
แนวโน้มทิศทาง
1
Head and Shoulders Chart Pattern
Uptrend (ขาขึ้น)
Reversal (กลับตัวลง)
2
Inverse Head and Shoulders Chart Pattern
Downtrend (ขาลง)
Reversal (กลับตัวขึ้น)
3
Double Top Chart Pattern
4
Double Bottom Chart Pattern
5
Triple Top Chart Pattern
6
Triple Bottom Chart Pattern
7
Rectangle (Sideway Range) Chart Pattern
Sideway (ไปด้านข้าง)
Continuation (ต่อเนื่อง) หรือ Reversal (กลับตัวขึ้น)
8
Flag Chart Pattern
Uptrend (ขาขึ้น)/Downtrend (ขาลง)
Continuation (ต่อเนื่อง)
9
Pennant Chart Pattern
10
Ascending Triangle Chart Pattern
11
Descending Triangle Chart Pattern
12
Symmetrical Triangle Chart Pattern
ไม่แน่นอน
13
Cup and Handle Chart Pattern
14
Rounding Bottom (Saucer) Chart Pattern
15
Rounding Top Chart Pattern
16
Wedge (Rising/Falling Wedge) Chart Pattern
Reversal (กลับตัวส่วนมาก)
17
Broadening Formation chart pattern
รูปแบบยอดนิยมที่บ่งบอกถึง สัญญาณกลับตัวจากขาขึ้นเป็นขาลง มีรูปแบบคล้ายกับไหล่-หัว-ไหล่ เมื่อราคาทะลุ “neckline” จะเป็นจุดเข้าเพื่อทำการขาย
ตรงกันข้ามกับรูปแบบแรก ซึ่งรูปแบบนี้จะเป็นการใช้ระบุ การกลับตัวจากขาลงเป็นขาขึ้น ลักษณะคล้ายหัวกลับด้าน มักพบในช่วงปลายแนวโน้มขาลง
รูปแบบยอดคู่ที่มักจะเกิดขึ้นบริเวณแนวต้านสำคัญ แสดงให้เห็นถึงสัญญาณกลับตัวจากขาขึ้นเป็นขาลง เมื่อราคาทะลุแนวรับหลังยอดที่สอง
รูปแบบนี้ตรงข้ามกับ Double Top เป็นสัญญาณกลับตัวจากขาลงเป็นขาขึ้น เมื่อราคาทะลุแนวต้านเหนือยอดกลางที่เกิดขึ้นระหว่างร่องสองรอบ
รูปแบบกราฟ Triple Top ที่ขึ้นไปชนแนวต้าน 3 ครั้งแล้วยังไม่ผ่าน บ่งบอกได้ว่าแรงซื้ออ่อนลงมาก มีโอกาสกลับตัวลง ควรมองหาจังหวะเข้าขาย และต้องมี Stop Loss เพื่อจัดการความเสี่ยงด้วยทุกครั้ง
กราฟ Triple Bottom จะมีลักษณะเหมือน Double Bottom แต่จะมีการทดสอบแนวรับ 3 ครั้ง หากราคาทะลุแนวต้านได้ ก็จะมีโอกาสไปต่อ คุณสามารถวางแผนเตรียมเข้าซื้อได้เลย
รูปแบบนี้มีกรอบราคาที่แกว่งขึ้นลงในแนวรับ-แนวต้านชัดเจน หากคุณเล่นในกรอบก็เข้าออกได้ตามแนวรับ-ต้าน แต่หากราคาหลุดออกจากกรอบ Breakout ก็เตรียมเข้าเทรดได้เลย
คล้ายธงที่พักตัวหลังจากการเคลื่อนไหวแรง มักจะเคลื่อนตัวไปในทิศทางเดิม หากคุณเจอรูปแบบนี้ในขาขึ้น ก็เตรียมเข้าซื้อได้เลย แต่อย่าลืมให้รอ Breakout ขาขึ้นก่อน จากนั้นควรตั้ง Stop Loss ไว้ใต้ฐานธง
รูปแบบกราฟ Pennant มีลักษณะคล้าย Flag แต่รูปทรงแคบลงเป็นสามเหลี่ยมเล็ก ๆ ที่จะพักตัวไม่นานแล้วเคลื่อนที่ไปต่อ หากเกิดในขาขึ้นให้จับตาจังหวะพักก่อนเข้าซื้อ เผื่อกราฟเปลี่ยนทิศทางกลับไปเป็นขาลง
รูปแบบการเคลื่อนราคา Ascending Triangle เกิดขึ้นจากที่ราคาที่ขึ้นไปชนแนวต้านที่ระดับเดิมหลายครั้ง ในขณะที่แนวรับค่อยๆ ยกตัวสูงขึ้น แสดงให้เห็นว่าแรงซื้อเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ มักเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า ราคาน่าจะทะลุขึ้นในที่สุด
รูปแบบกราฟนี้ตรงข้ามกับ Ascending Triangle คือ ราคาจะเคลื่อนที่ลงมาชนแนวรับระดับเดิมหลายรอบ ในขณะที่แนวต้านจะลดต่ำลงเรื่อย ๆ ทำให้เห็นว่าแรงขายเริ่มชนะ และอาจเกิดการทะลุแนวรับลงไป
รูปแบบกราฟลักษณะนี้คือ แนวรับและแนวต้าน เอียงเข้าหากันเหมือนปากกรวย จะเห็นได้ในช่วงตลาดมีความลังเล ยังไม่แน่ใจว่าจะไปทิศทางไหน หากราคาทะลุกรอบขึ้นหรือลงเมื่อใกล้ปลายสามเหลี่ยม ก็จะบ่งชี้ทิศทางของแนวโน้มนั้น
รูปแบบนี้จะมีลักษณะเป็นถ้วยที่ค่อยๆ โค้งลงหรือขึ้น จากนั้นจะมีการพักตัวสั้นๆ เหมือนหูถ้วย เป็นรูปแบบสัญญาณของขาขึ้น เพราะหากทะลุแนวต้านขอบถ้วย ราคามักจะพุ่งขึ้นแรง
เป็นรูปแบบการกลับตัวจากขาลงสู่ขาขึ้น ราคาจะค่อยๆ ลดลงอย่างช้าๆ แล้วไต่กลับขึ้นมาเหมือนก้นจาน จะเห็นว่าตลาดกำลังเปลี่ยนแนวโน้มในระยะยาว
รูปแบบนนี้มีลักษณะตรงข้ามกับฐานโค้งมน คือ กราฟเริ่มไต่ขึ้นแล้วค่อยๆ โค้งลงอย่างช้าๆ นี่ก็แสดงว่าราคากำลังหมดแรงและอาจเปลี่ยนเป็นขาลง เหมาะสำหรับดูจังหวะขายหรือหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
รูปแบบกราฟที่เป็นรูปสามเหลี่ยมบีบตัว ต่ทั้งสองเส้นเอียงไปทางเดียวกัน หากเป็น rising wedge กราฟจะเอียงตัวขึ้น ก็แปลว่า แรงขึ้นเริ่มอ่อนราคาก็จะมีโอกาสลง ส้วน Falling wedge เป็นกราฟเอียงตัวลง แสดงให้เห็นว่า แรงขายเริ่มอ่อนตัว มีแนวโน้มเด้งขึ้น
รูปแบบที่เส้นกราฟจะกระจายกว้างออกเรื่อยๆ คล้ายกับพัด ที่เปิดกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ แสดงว่าตลาดมีความผันผวนสูง ไม่มั่นคง และยากต่อการคาดการณ์ ควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
การอ่านและตีความ Price Pattern และ Chart Pattern เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับนักลงทุนและนักเทรด เพื่อใช้ในการตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพการซื้อหรือขายสินทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็น หุ้น, คริปโต, ฟอเร็กซ์ และสินทรัพย์อื่นๆ นี่จะเป็นวิธีการตีความ Price Pattern ที่แม่นยำที่สุด
เข้าใจประเภท Price Patterns
พิจารณาทิศทางการเคลื่อนไหวของราคา กราฟ
ดู Volume เพื่อยืนยัน Pattern ก่อนที่จะเข้าซื้อหรือขาย
ตั้ง Stop Loss และ Take Profit
รอการยืนยันจากกราฟ เช่น Breakout หรือ Reversal
การใช้หลักการ Chart Pattern ก็มีข้อควรระวัง เพื่อป้องกันความผิดพลาดและความเสี่ยงที่าอาจเกิดขึ้น เรามาดูกันว่า ข้อควรระวังที่คุณห้ามมองข้ามมีอะไรกันบ้าง
คุณควรใช้ Indicators และ Volume ในการวิเคราะห์ Chart Pattern เพื่อเพิ่มความแม่นยำ
จำเป็นจะต้องรอการยืนยันจาก Volume หรือ การเคลื่อนไหวของราคา เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ
Chart Pattern ไม่เหมาะที่จะใช้ในช่วงตลาดมีความผันผวนสูง
ควรเลือก Timeframe ที่เหมาะสมกับกลยุทธ์การเทรดของคุณ ก็จะช่วยให้วิเคราะห์ดีขึ้น
ต้องตั้ง Stop Loss ทุกครั้งที่เข้าเทรด เพื่อจำกัดการขาดทุนและควบคุมความเสี่ยง
ควรฝึกฝนการตีความ Chart Pattern ให้แม่นยำ อย่างการทำ Backtest เป็นต้น
Price Pattern และ Chart Pattern คือ เครื่องมือที่ช่วยให้นักเทรดสามารถอ่านพฤติกรรมราคาและการเคลื่อนไหวราคาได้ เพื่อให้คุณเข้าใจตลาดสินทรัพย์ที่คุณต้องการเข้าลงทุนมากขึ้น ซึ่งหลายครั้งที่ราคามีการเคลื่อนที่ที่มีนัยสำคัญหรือเป็นสัญญาณที่คุณสามารถนำไปใช้คาดการณ์ทิศทางในอนาคตได้ และนี่ก็คือ รูปแบบกราฟราคา ที่เกิดขึ้นซ้ำๆ อยู่บ่อยครั้งในตลาด เช่น Head and Shoulders, Cup and Headle และอื่นๆ อีกมากมาย
เปิดบัญชีและเริ่มต้นเลย
คุณควรทำความเข้าใจ ลักษณะและพฤติกรรมของ Price Pattern มากกว่าการจำ เพื่อปรับใช้ได้ตามสถานการณ์จริงในตลาด
Price Pattern มีหลากหลายรูปแบบ เช่น Continuation Pattern, Reversal Pattern และ Sideway Pattern เป็นต้น
เพราะ แนวรับ-แนวต้าน จะช่วยยืนยันจุดที่ราคาน่าจะกลับตัวหรือทะลุออกกรอบราคา มักจะใช้ร่วมกับ Price Pattern
ตัวอย่าง Price Pattern ที่พบบ่อย เช่น Double Top/Bottom Triangle, Head and Shoulders และ Cup and Handle เป็นต้น
Reversal Pattern คือ การที่ราคากลับทิศทางจากขาขึ้นเป็นขาลง หรือจากขาลงเป็นขาขึ้น เช่น Double Top/Bottom หรือ Head and Shoulders เป็นต้น
Price Pattern จะใช้ในการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวราคาระยะสั้น ส่วน Chart Pattern จะใช้วิเคราะห์กราฟในระยะยาว เพื่อคาดการณ์แนวโน้มราคา
SEO Content Writer
อิสสริยา ดวงเนตร เป็นนักเขียนคอนเท้นต์ SEO ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เชี่ยวชาญด้านการให้ความรู้ เรื่องตลาดเทรด และ การลงทุน เน้นสไตล์การเขียนที่อ่านง่าย เข้าใจง่าย และเนื้อหาความรู้จัดเต็ม พร้อมกับการผสมผสานเทคนิค SEO ที่ช่วยให้ผู้อ่านค้นหาบทความได้ง่าย อย่าลืมติดตามกันนะคะ
เนื้อหาในเอกสารหรือภาพนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นและแนวคิดส่วนบุคคล ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับความคิดเห็นของบริษัท ข้อมูลในที่นี้ไม่ควรตีความว่าเป็นคำแนะนำด้านการลงทุนใดๆ และ/หรือการชักชวนให้ทำธุรกรรมใดๆ ไม่มีการแสดงถึงข้อผูกพันในการซื้อบริการการลงทุน และไม่รับประกันหรือคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต บริษัท XS บริษัทในเครือ ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่ หรือพนักงาน ไม่รับประกันห้วงเวลา ความสมบูรณ์หรือความถูกต้องของข้อมูลหรือข้อมูลใดๆที่มีให้ และไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียใดๆที่เกิดจากการลงทุนตามข้อมูลดังกล่าวแพลตฟอร์มของเราอาจไม่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการทั้งหมดที่กล่าวถึง