Logo
หน้าหลัก     บทความ     Rsi คือ อะไร

แนวโน้มราคา

RSI คืออะไร? การใช้ RSI และกลยุทธ์ Divergence ในการเทรด

เขียนโดย Itsariya Doungnet

อัปเดตแล้ว 23 พฤษภาคม 2025

rsi-คือ
สารบัญ

    RSI คือ เครื่องมือเทรด หุ้น, ฟอเร็กซ์ และ คริปโต ที่นักเทรดนิยมใช้ใน การวิเคราะห์เชิงเทคนิค เพื่อดูแนวโน้มของราคาในตลาดการเงิน  นอกจากนี้แล้ว การใช้ Divergence RSI เพื่อจับจังหวะกลับตัว ร่วมด้วย ก็จะยิ่งช่วยเสริมการวิเคราะห์ RSI ให้แม่นยำยิ่งขึ้น บทความนี้จะพาคุณเข้าใจกับการใช้งาน RSI อย่างมืออาชีพ และ การตั้งค่า RSI ที่มีการนิยมใช้ รวมถึงเทคนิคการใช้งานอื่นๆ อีกมากมาย

    สาระสำคัญ

    • RSI คือ เครื่องมือที่ใช้วิเคราะห์แรงซื้อและแรงขายในตลาด เพื่อหา สัญญาณ Overbought และ Oversold

    • การตั้งค่า RSI ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ RSI 14 ช่วยให้เทรดเดอร์เห็นแนวโน้มราคาได้แม่นยำขึ้น ทั้งใน ตลาดหุ้น, การใช้ RSI ในกราฟ Forex และ คริปโต

    • กลยุทธ์ RSI Divergence ช่วยจับจังหวะการกลับตัวของราคาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตรวจดูความไม่สอดคล้องระหว่างราคาและค่า RSI ได้ง่ายขึ้น

    • การใช้ MACD หรือ Moving Averages ควบคู่กับ RSI Divergence  เพื่อช่วยยืนยันแนวโน้มและลดความเสี่ยงจากสัญญาณ Fake breakouts

    ทอลองใช้บัญชีเดโม่โดยไม่มีความเสี่ยง

    ลงทะเบียนบัญชีเดโม่ฟรีและปรับกลยุทธ์การเทรดของคุณ

    เปิดบัญชีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

    เครื่องมือวิเคราะห์กราฟ RSI คือ อะไร?

    RSI คือ เครื่องมือที่นักเทรดจำเป็นต้องทำความเข้าใจ เพราะเครื่องมือนี้จะช่วยให้คุณเห็นแนวโน้มตลาดที่จะเกิดขึ้นในอนาคต คำนิยามของ RSI คือ Relative Strength Index มีการพัฒนาเทคนิคโดย  J. Welles Wilder Jr. ปี 1978  ที่เรามักจะใช่ร่วมกับ RSI Divergence ที่เป็นกลยุทธ์วิเคราะห์ทางเทคนิค ซึ่งเครื่องมือนี้เป็น Oscillator จะมีค่าสูงสุดกว่า 100 มีจุดประสงค์ บ่งบอกความแรงของราคา (Momentum) ในช่วงเวลาที่กำหนด

     

    RSI ใช้ยังไง?

    การใช้ RSI ในการเทรดสามารถช่วยให้คุณหา จุดเข้าซื้อและจุดขาย ได้อย่างแม่นยำ การตั้งค่า RSI ใน MetaTrader โดยทั่วไปแล้ว คือ RSI 14 ที่เป็นค่าที่นิยมใช้ในการคำนวณ การทำความเข้าใจ RSI จะช่วยให้เทรดเดอร์ระบุได้ว่า ตลาดอยู่ในภาวะ Overbought หรือ Oversold ได้อย่างรวดเร็ว

     

    วิธีการอ่านค่า RSI

    การอ่านกราฟ RSI สำหรับมือใหม่ ที่สามารถทำได้ง่ายๆ ซึ่งคุณจะต้องมองหาค่า RSI ที่สูงกว่า 70 หรือ ต่ำกว่า 30 เพื่อใช้เป็นจุดสัญญาณการซื้อหรือขาย เช่น:

    สัญญาณ-Overbought

    • สัญญาณ Overbought (มีค่ามากกว่า 70) หมายความว่า ตลาดอาจซื้อมากเกินไป และราคามีแนวโน้มที่จะปรับตัวลง

    สัญญาณ-Oversold

    • สัญญาณ Oversold (มีค่าต่ำกว่า 30) หมายความว่า ตลาดอาจขายมากเกินไป และราคามีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้น

     

    สูตรการคำนวณ RSI

    สูตรการคำนวณ RSI เป็นดังนี้:

    การคำนวณ RSI จะมีการใช้สูตรที่ช่วยวัด “แรงซื้อ” และ “แรงขาย” ในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งช่วงเวลา RSI ที่นิยมใช้มากที่สุด คือ แบบ 14 วัน หรือ 14 แท่งราคาในกราฟ

    สูตรการคำนวณ-RSI

    RS (Relative Strength) = ค่าเฉลี่ยของ "การเพิ่มขึ้นของราคา" (Average Gain) ÷ ค่าเฉลี่ยของ "การลดลงของราคา" (Average Loss)

     

    ตัวอย่างการคำนวณ RSI

    หากค่าเฉลี่ยการขึ้นราคาใน 14 วัน = 1.5 ค่าเฉลี่ยการลดลงราคา = 0.5 จะได้เป็น RS = 1.5 ÷ 0.5 = 3

    แทนค่าในสูตร:

    ตัวอย่างการคำนวณ-RSI

    นี่ก็แสดงให้เห็นว่า ราคากำลังเข้าใกล้ภาวะ Overbought (ค่ามากกว่า 70)

     

    การเทรดด้วย RSI Divergence Trading

    การใช้ การใช้ RSI ในตลาด Forex หรือจะใช้ RSI กับการเทรดหุ้น ก็ตาม มักจะมีหลักการใช้ที่ไม่ต่างกันมาก หากคุณสามารถ การตีความ RSI ได้ ก็สามารถหา จุดกลับตัวของราคา ได้ ซึ่ง สัญญาณ Divergence RSI ช่วยให้คุณอ่านเพียง RSI และการตั้ง Stop Loss ได้ และ ช่วยให้คุณหลีกเลี่ยง ตลาด Sideways เมื่อ RSI อยู่ในช่วง ค่าระหว่าง 40-60 เป็นต้น

     

    วิธีใช้งาน RSI Divergence Strategy คืออะไร?

    การเทรดแบบ Divergence ด้วย RSI คือ กลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมในการใช้ร่วมกับ RSI เพื่อตรวจดูการเคลื่อนไหวราคากับการเคลื่อนไหว RSI บนกราฟแท่งเทียน เพื่อให้คุณเห็นภาพรวมทิศทางการเคลื่อนไหวราคา ซึ่ง RSI Divergence มีสองประเภทหลักที่สำคัญ เช่น

    การเทรดแบบ-Divergence-ด้วย-RSI-Bullish

     

    Bullish Divergence (การเกิด Divergence ในทิศทางขาขึ้น)

    เกิดขึ้นเมื่อราคาทำจุดต่ำสุดใหม่ (Lower Low) แต่ RSI กลับทำจุดต่ำสุดที่สูงกว่า (Higher Low) ซึ่งแสดงถึงแรงขายที่อ่อนแรงลง อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าราคาจะมีแนวโน้มกลับตัวขึ้นในอนาคต

     

    การเทรดแบบ-Divergence-ด้วย-RSI-Bearish

     

    Bearish Divergence (การเกิด Divergence ในทิศทางขาลง)

    เกิดขึ้นเมื่อราคาทำจุดสูงสุดใหม่ (Higher High) แต่ RSI กลับทำจุดสูงสุดที่ต่ำกว่า (Lower High) ซึ่งแสดงถึงแรงซื้อที่อ่อนแรงลง อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าราคาจะมีแนวโน้มกลับตัวลงในอนาคต

     

    วิธีใช้ RSI ร่วมกับ MACD และ Moving Averages

    การใช้ MACD และ Moving Averages ร่วมกับ RSI Divergence จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจและทำให้สามารถจับจังหวะการเทรดได้ดีขึ้น

     

    การใช้ RSI กับ MACD

    MACD หรือ Moving Average Convergence Divergence เป็นเครื่องมือที่ช่วยวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้มและสามารถใช้ร่วมกับ RSI เพื่อยืนยันสัญญาณจาก Divergence ได้ดังนี้:

    การใช้-RSI-กับ-MACD-Bullish

     

    Bullish Divergence (Divergence ขาขึ้น):

    เมื่อ RSI แสดงสัญญาณ Bullish Divergence (ราคาทำจุดต่ำใหม่ แต่ RSI ทำจุดต่ำที่สูงกว่า) ให้ตรวจสอบ MACD หาก MACD Line (เส้นสัญญาณหลัก) อยู่เหนือ Signal Line (เส้นสัญญาณ) หรือแสดงการกลับตัวขึ้น ให้ยืนยันว่าแนวโน้มขาขึ้นอาจจะเริ่มต้นขึ้น การ Cross over ของ MACD จะเป็นสัญญาณการกลับตัว ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

     

    การใช้-RSI-กับ-MACD-Bearish

     

    Bearish Divergence (Divergence ขาลง):

    เมื่อ RSI แสดงสัญญาณ Bearish Divergence (ราคาทำจุดสูงใหม่ แต่ RSI ทำจุดสูงที่ต่ำกว่า) ให้ตรวจสอบ MACD หาก MACD Line ข้ามลงต่ำกว่า Signal Line หรือมีการลดลงในระดับ Histogram ที่แสดงว่าแรงซื้ออ่อนลง การยืนยันนี้จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในการเปิดการเทรดขาลง

     

    การเทรดด้วย RSI กับ Moving Averages

    Moving Averages (MA) เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการดูแนวโน้ม ค่าเฉลี่ยราคาหุ้นในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งการใช้ MA เพื่อตรวจสอบการกลับตัวของราคาเมื่อร่วมกับ RSI Divergence สามารถทำได้ดังนี้:

    การใช้-RSI-กับ-Moving-Averages-Bullish

     

    Bullish Divergence (Divergence ขาขึ้น):

    หาก RSI แสดงสัญญาณ Bullish Divergence (ราคาทำจุดต่ำใหม่ แต่ RSI ทำจุดต่ำที่สูงกว่า) ให้ยืนยันการกลับตัวด้วย Moving Averages เช่น การดูว่า ราคาขึ้นข้าม MA (เช่น 50 MA หรือ 200 MA) ขึ้นไป ซึ่งจะเป็นสัญญาณของแนวโน้มขาขึ้น และเป็นการยืนยันสัญญาณซื้อจาก RSI Divergence

     

    การใช้-RSI-กับ-Moving-Averages-Bearish

     

    Bearish Divergence (Divergence ขาลง):

    หาก RSI แสดงสัญญาณ Bearish Divergence (ราคาทำจุดสูงใหม่ แต่ RSI ทำจุดสูงที่ต่ำกว่า) ให้ดูว่า ราคาต่ำกว่าการเคลื่อนที่ของ MA เช่น 50 MA หรือ 200 MA หากราคาลงต่ำกว่า MA หรือเกิดการ Cross Below อาจเป็นสัญญาณขาลงที่แข็งแกร่งจาก Divergence และเป็นการยืนยันการขาย

     

    เคล็ดลับการใช้ RSI Divergence ในตลาด Forex และหุ้น

    การเทรดด้วย Divergence RSI ในตลาด Forex และหุ้น สามารถช่วยให้คุณระบุจุดกลับตัวของราคาได้แม่นยำขึ้น แต่ก็มีความเสี่ยงจากสัญญาณหลอกที่อาจเกิดขึ้น ดังนั้น การเรียนรู้และฝึกฝนวิธีการใช้งานอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ โดยเคล็ดลับสำคัญคือ:

    • ตรวจสอบแนวโน้มใหญ่ (Macro Trend): ก่อนใช้ RSI Divergence ในการเทรด ควรตรวจสอบแนวโน้มหลักในตลาด (เช่น ดูกราฟใหญ่เพื่อ ใช้ RSI เพื่อยืนยันแนวโน้ม ตลาดอยู่ในขาขึ้นหรือขาลง) เพื่อให้แน่ใจว่าสัญญาณที่พบสอดคล้องกับแนวโน้มหลัก

    • ไม่รีบร้อนเข้าออเดอร์: อย่าเปิดออเดอร์ทันทีที่พบ สัญญาณ Divergence RSI ควรรอให้กราฟราคายืนยันการกลับตัวด้วยการเบรกแนวรับ/แนวต้าน หรือเกิดการกลับตัวในรูปแบบแท่งเทียน

    • ใช้ Stop Loss และ Take Profit: การตั้ง Stop Loss ช่วยปกป้องการขาดทุนจากการหลอกลวงของตลาด โดยตั้งที่จุดที่คุณสามารถรับความเสี่ยงได้ และใช้ Take Profit เพื่อปิดออเดอร์เมื่อกำไรถึงจุดที่ต้องการ

    • ใช้เครื่องมืออื่นๆ ร่วมด้วย: เช่น การใช้ RSI เพื่อยืนยันสัญญาณ ร่วมกับ MACD หรือ Moving Averages เป็นการผสมผสานเครื่องมือหลายๆ ตัว ในการช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น

    • ระวังตลาด Sideways: ระวังสัญญาณหลอกในตลาดที่ไม่มีทิศทางชัดเจน (Sideways Market) ควรหลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงนี้และรอให้ตลาดแสดงแนวโน้มที่ชัดเจนก่อน

     

    วิธีหลีกเลี่ยงสัญญาณหลอกด้วย RSI Divergence

    เทคนิคการเทรด RSI Divergence อาจเสี่ยงกับสัญญาณหลอกในตลาดที่ไม่มีทิศทางที่ชัดเจนหรือกราฟที่แสดงความผันผวนสูง ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงสัญญาณหลอก ให้ใช้กลยุทธ์ดังนี้:

    • รอการยืนยันจากกราฟแท่งเทียน: การใช้ RSI ในการจับจังหวะกลับตัว ควรรอให้มีการยืนยันด้วยแท่งเทียน เช่น Pin Bar หรือ Engulfing Pattern เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการเปิดออเดอร์

    • ตรวจสอบเวลาการเทรด: หลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงที่ตลาดมีการเคลื่อนไหวแบบ Sideways หรือไม่เป็นระเบียบ ควรเลือก Timeframe ที่ยาวขึ้นเพื่อการวิเคราะห์ที่ชัดเจนกว่า

    • ใช้ Timeframe ที่ใหญ่กว่า: การดูกราฟใน Timeframe ที่ยาวกว่า เช่น H1 หรือ D1 จะช่วยลดโอกาสที่เกิดสัญญาณหลอกจากตลาดที่ผันผวน สามารถใช้ RSI กับกลยุทธ์การเทรดระยะยาว ได้เช่นกัน

     

    ข้อดีข้อเสีย  RSI Divergence

    ข้อดี

    ข้อเสีย

    ช่วยดูทิศทางแนวโน้มการกลับตัวของราคาในกราฟที่มี Divergence ระหว่างราคาและ RSI

    อาจมีสัญญาณหลอก หรือ Fake breakouts ช่วงตลาด Sideways

     เพิ่มความมั่นใจในการเปิดออเดอร์เมื่อมีการยืนยันจาก Divergence

    อาจไม่เหมาะในการใช้งานหากตลาดไม่สามารถแสดงการกลับตัวที่ชัดเจน

     ใช้งานร่วมกับเครื่องมืออื่น ๆ เช่น MACD หรือ Moving Averages เพื่อยืนยันสัญญาณ

     

     

    สรุป  RSI Divergence เหมาะกับใคร

    เครื่องมือวิเคราะห์กราฟ RSI และ กลยุทธ์เทรดด้วย RSI Divergence เหมาะสำหรับ นักเทรดทั้งมือใหม่และมืออาชีพ ที่ต้องการเครื่องมือในการวิเคราะห์ทางเทคนิค เพื่อช่วยระบุจุดกลับตัวของราคาในตลาด หุ้น, Forex และ คริปโต โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการใช้กลยุทธ์ในการจับจังหวะซื้อขายอย่างแม่นยำ การใช้ RSI คือ เครื่องมือที่ช่วยให้นักเทรดสามารถมองเห็น ภาวะ Overbought และ Oversold ได้ชัดเจน และการใช้ RSI Divergence จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในสัญญาณการกลับตัวของราคา

    พร้อมสำหรับก้าวต่อไปในการซื้อขายหรือยัง?

    เปิดบัญชีและเริ่มต้นเลย

    รับสิทธิ์เข้าถึงฟรี
    สารบัญ

      คำถามที่พบบ่อย

      RSI Divergence คือ สัญญาณที่เกิดขึ้นเมื่อทิศทางของราคากับ RSI ไม่สอดคล้องกัน มักใช้เพื่อการคาดการณ์จุดกลับตัวของแนวโน้มราคา

      RSI คือ ดัชนีวิเคราะห์แรงดันของราคา ที่ใช้วัดความแรงของการเคลื่อนไหวของราคา ในช่วงเวลาที่กำหนด ช่วยบอกภาวะซื้อมากหรือขายมากเกินไป

      ค่ามาตรฐานที่นิยมใช้ คือ RSI 14 ซึ่งเหมาะสำหรับทั้ง นักเทรดระยะสั้นและระยะยาว และสามารถปรับได้ตามกลยุทธ์การเทรด

      RSI เป็นตัวชี้วัดทางเทคนิค ที่ใช้บอกระดับแรงซื้อแรงขายในตลาด มีช่วงค่าตั้งแต่ 0 ถึง 100 เน้นการวิเคราะห์จุดกลับตัว

      RSI มักใช้ควบคู่กับอินดิเคเตอร์อื่นๆ เช่น MACD หรือเส้นค่าเฉลี่ย (Moving Averages) เพื่อยืนยันสัญญาณเข้าออกเทรดให้แม่นยำยิ่งขึ้น

      โซน RSI แบ่งออกเป็น Oversold (ต่ำกว่า 30), Overbought (มากกว่า 70) และ Sideways (อยู่ระหว่าง 40–60) เพื่อช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมราคาในตลาด

      Itsariya Doungnet

      Itsariya Doungnet

      SEO Content Writer

      อิสสริยา ดวงเนตร เป็นนักเขียนคอนเท้นต์ SEO ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เชี่ยวชาญด้านการให้ความรู้ เรื่องตลาดเทรด และ การลงทุน เน้นสไตล์การเขียนที่อ่านง่าย เข้าใจง่าย และเนื้อหาความรู้จัดเต็ม พร้อมกับการผสมผสานเทคนิค SEO ที่ช่วยให้ผู้อ่านค้นหาบทความได้ง่าย อย่าลืมติดตามกันนะคะ

      เนื้อหาในเอกสารหรือภาพนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นและแนวคิดส่วนบุคคล ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับความคิดเห็นของบริษัท ข้อมูลในที่นี้ไม่ควรตีความว่าเป็นคำแนะนำด้านการลงทุนใดๆ และ/หรือการชักชวนให้ทำธุรกรรมใดๆ ไม่มีการแสดงถึงข้อผูกพันในการซื้อบริการการลงทุน และไม่รับประกันหรือคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต บริษัท XS บริษัทในเครือ ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่ หรือพนักงาน ไม่รับประกันห้วงเวลา ความสมบูรณ์หรือความถูกต้องของข้อมูลหรือข้อมูลใดๆที่มีให้ และไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียใดๆที่เกิดจากการลงทุนตามข้อมูลดังกล่าวแพลตฟอร์มของเราอาจไม่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการทั้งหมดที่กล่าวถึง

      scroll top